Saturday, December 11, 2010

Memphis Belle [ป้อมบินเย้ยฟ้า]



ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Memphis Belle(1990)
ชื่อไทย : ป้อมบินเย้ยฟ้า
ความ ยาว/Length :  107 นาที/minute

Admin T@LK : หนังเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้อ้างอิงมาจากประวัติศาสตร์ของสงครามโลก ถึงแม้ว่าหนังจะสั้นๆ ประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งก็ตาม แต่เนื้อหาภายในนั้นก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบครันเลยทีเดียว ตัวหนังนั้นเน้นไปที่ภารกิจครั้งสำคัญของเหล่าทหารอากาศในการออกบินครั้งสุดท้าย โดยที่ตัวเครื่องบินที่เป็นหลักของเรื่องไม่ใช่เครื่องบินขับไล่แต่อย่างใด แต่เป็นเครื่องบินที่เอาไว้ทิ้งระเบิด ซึ่งผมเองก๋ไม่เคยคิดเหมือนกันก่อนที่จะได้มาดูเรื่องนี้ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดนั้นจะสามารถทำอะไรได้บ้างนอกจากทิ้งระเบิด ......




เรื่องย่อ

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ที่ฐานบินของกองพลบินที่ 8 ซึ่งเป็นกองพลบินที่มีนักบินอาสาสมัครประจำการอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1943 (พ.ศ.2486) เมื่อฝูงบินกลับจากภารกิจในการโจมตีเยอรมันนี ทางกองบังคับการ ได้รับคำสั่งให้เตรียมตัวทำการออกบินทิ้งระเบิดร่วมกับฝูงบินอื่นที่ เบรเมน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องบินของเยอรมัน โดยจะมีขบวนบินที่มีจำนวนเครื่องบินถึง 350 เครื่อง เพื่อทำการกดดันข้าศึกไม่ให้มีเวลาโงหัวขึ้นมาทำการรบได้อย่างสมบูรณ์ Memphis Belle ได้รับภารกิจนี้แม้ว่านักบินและลูกเรือจะเหนื่อยล้ามากแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีความหวังที่จะบินกลับบ้านเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ให้กองทัพ หลังจากการบินเที่ยวต่อไป ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 25 ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินสุดท้ายในสมรภูมิของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงหวังกันว่า ทางกองบัญชาการ น่าจะส่งพวกเขาบินไปในที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุด แต่ คำสั่งที่ออกมา พวกเขาต้องบินไปปฏิบัติภารกิจเหนือฟ้า เบรเมน ที่มีทั้งเครื่องบินขับไล่และปืน ปตอ.อีกร่วม 500 กระบอกรอคอยอยู่
คืนวันที่ 16 มีการเลี้ยงสังสรรค์เพื่อผ่อนคลายความเครียด ในหนัง เราจะเห็นลูกเรือของ Memphis Belle ทั้ง 10 คนมีปฏิกริยาที่แตกต่างกันไป บางคนเฉย ๆ บางคนกลัวจนต้องใช้เหล้าดับอารมณ์ บ้างก็หาเครื่องรางนำโชคตามความเชื่อของตนเองติดตัวไว้ และคืนนี้เอง ที่มีการประกาศว่า Memphis Belle จะได้กลับบ้าน โดยผู้การ บรู๊ซ นายทหารจากฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นผู้ไปกล่าวบนเวทีของงานเลี้ยง และชวนให้มีการไชโยให้แก่ Memphis Belle และลูกเรือทั้ง 10 คน ปรากฏว่าผู้การ บรู๊ซ หน้าแตก เพราะไปขัดกับเรื่องความเชื่อของนักบินเข้า ดีว่าได้ เคลย์ พลปืนท้ายของ Memphis Belle ขึ้นไปช่วยขัดตาทัพด้วยการร้องเพลงให้เพื่อน ๆ ฟัง….ด้วยเพลง….Danny Boy

เช้าวันที่ 17 พฤษภาคม หลังฟังบรรยายสรุป เครื่องบินทุกลำพร้อมออกเดินทาง นักบินและลูกเรือพร้อมรบ ยกเว้น ฟิลล์ ต้นหนของ Memphis Belle ที่เมาค้างจากเมื่อคืน และยังมีความปอดกระเส่าต่อเที่ยวบินเที่ยวนี้ ด้วยเขาหวังว่า เขาจะต้องปลอดภัยกว่านี้ ถ้าไม่ไปปฏิบัติภารกิจตามที่หน่วยเหนือกำหนดมากว่าจะได้ออกบินเนื่องจากฟ้าปิด ลูกเรือต่างก็พักผ่อนคอยเวลาอยู่ใกล้ ๆ เครื่องของตน ลูกเรือของ Memphis Belle ก็เช่นเดียวกัน เดนนิส นักบินที่ 1 ผู้มีความสุขุมเยือกเย็น นั่งอ่านหนังสือ ลุค นักบินที่ 2 อดีตไลฟ์การ์ด ผู้คึกคะนองพยายามขอร้อง เคลย์ พลปืนกลคู่ป้อมท้ายให้เปิดโอกาสให้เค้าได้แอบมายิงเครื่องเยอรมันบ้าง ฟิล ต้นหนผู้ปอดแหกนอนพักผ่อนเนื่องจากเมาค้าง วาล อดีตนักศึกษาแพทย์ที่เรียนแค่ 2 อาทิตย์ทำหน้าที่พนักงานทิ้งระเบิดพักผ่อนอยู่ในกลุ่ม สำหรับ 2 คนนี่ ทำหน้าที่พลปืนหน้าซ้ายและหน้าขวาด้วย ส่วนลูกเรืออื่น ๆ ได้แก่ แดนนี่ พนักงานวิทยุ เวอร์จิน พลปืนกลคู่ป้อมบน แรสคัล พลปืนกลคู่ป้อมล่างใต้ลำตัว ยูยีน และ แจ๊ค พลปืนข้างลำตัวด้านซ้ายและด้านขวาตามลำดับ ต่างก็เล่นหัวหยอกเย้ากันอย่างมีความสุขพอฟ้าเปิด เครื่องทุกเครื่องในฝูง ต่างออกเดินทางเพื่อไปยังจุดนัดพบเพื่อสนธิกำลังกับฝูงอื่นเหนือฟ้าเยอรมัน ก่อนถึงเป้าหมาย เครื่องชื่อ Windy City ซึ่งเป็นผู้นำฝูงถูกยิงตก โดยมีเครื่องที่ชื่อ C – cup (ตั้งชื่อได้น่ารักดีนะครับ….นึกภาพออกเลยว่า…ขนาดไหน…) รับหน้าที่นำฝูงแทน แต่แล้ว C – cup ก็ต้องออกจากการสู้รบเช่นกัน เพราะถูกยิงที่ส่วนหัวได้รับความเสียหายมาก และไม่ทราบว่าใคร ระหว่างนำร่องกับพนักงานทิ้งระเบิดที่หลุดออกมาจากหัวเครื่องโดยปราศจากร่ม ชูชีพ ผมเดาว่า…น่าจะเป็นส่วนทิ้งระเบิดมากกว่านะครับ เพราะอยู่ที่ตำแหน่งส่วนหัวมากกว่าใครเค้า และยังมีเครื่องที่น่าสงสาร คือ Mother & Country ซึ่งเป็นเครื่องที่บินโดยลูกเรือใหม่ทั้งทีมต้องตกด้วย เนื่องจากถูกเครื่องบินขับไล่เยอรมันที่ถูก ลุค เป็นผู้ยิงพุ่งเข้าชนจนขาดกลาง Memphis Belle ต้องทำหน้าที่นำฝูงแทน และ แดนนี่ นักบินที่ 1 ได้สั่งให้ทุกคนติดร่มชูชีพและใส่เสื้อเกราะด้วยเพื่อความปลอดภัย แรสคัล บ่นว่าป้อมปืนล่างใต้ลำตัวที่เค้าประจำอยู่แคบมากเกินกว่าที่ติดร่มชูชีพได้ เดนนิส จึงให้ใส่เข็มขัดนิรภัยแทน ซึ่งทำให้ แรสคัล รอดตายจากการหล่นจากเครื่องที่ระยะสูงร่วม 30  ,  000 ฟุตไปได้ เมื่อป้อมปืนของเค้าถูกยิงจนหลุดออก ซึ่งฉากนี้ เป็นฉากที่หวาดเสียวฉากหนึ่งในหนังครับ รวมทั้งฉากขำ ๆ ที่ ฟิล ต้นหนผู้ปอดแหก นอกจากจะติดร่ม ใส่เสื้อเกราะเหมือนคนอื่น ๆ แล้ว ผู้หมวด ฟิล ยังใส่หมวกเหล็กไว้อีกต่างหาก…แกกลัวตายมากเลยครับ
เหนือเป้าหมายที่ต้องการทำลาย ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหนาและกลุ่มควันจากการระเบิดของกระสุน ปตอ. รวมทั้งการขัดขวางจากฝูงลุฟวัฟเฟท์ วาล (Luftwaffe) ยังไม่สามารถที่จะจับภาพเป้าหมายที่ต้องการได้ เครื่องถูกโจมตีอย่างหนัก ซึ่งก็มีฉากขำ ๆ ให้ได้หัวเราะกันอีก เมื่อสะเก็ดกระสุนพุ่งเข้ามาในห้องนักบินและเจาะกระติกที่ แดนนิส ใช้ใส่ซุปมะเขือเทศแตกกระจายไปทั่ว…..นักบินทั้งสองต่างพากันตกใจว่าอีกคน หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนเลือดเต็มตัว จนกระทั่ง เวอร์จิน เจอกระติกที่แตกเข้า ถึงได้รู้ว่า…แค่ซุปมะเขือเทศเท่านั้น
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะต้องนำฝูงเข้าทิ้งระเบิดให้ตรงเป้าหมายมากที่สุด โดยไม่พลาดไปโดนโรงเรียน โรงพยาบาล และ ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง เดนนิส นำฝูงบินทั้งหมดบินวนเวียนอยู่เหนือเป้าหมายที่ได้จากการคำนวน เพื่อให้ วาล พยายามจับเป้าได้ชัดเจนที่สุดท่ามกลางการคัดค้านของ ลุค และ ฟิล ที่ต้องการให้ทิ้งระเบิดลงไปซะ เพื่อจะได้รีบกลับฐานกันอย่างปลอดภัย และในที่สุดหลังจากบินวนกันอยู่อีกรอบ ผู้กำกับก็สั่งให้ฟ้าเปิด วาล เห็นเป้าหมายอย่างชัดเจนจากกล้องเล็งของเขา ระเบิดถูกทิ้งลงไป ทุกลำบินกลับฐานด้วยความบอบช้ำมากบ้างน้อยบ้าง Belle เองก็โดนเข้าไปหลายขนานครับ แจ๊ค บาดเจ็บเล็กน้อยแต่ยังประจำปืนได้ แดนนี่ ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เพื่อน ๆ คาดว่าจะไม่รอด วาล เสนอให้ทิ้งเค้าลงไปพร้อมร่มเพื่อให้เยอรมันจับตัวไปรักษา แต่ทุกคนไม่ยินยอม ต้องการที่จะเค้ากลับบ้านพร้อม ๆ กันให้ได้ ส่วนตัวเครื่องเองก็ได้เกิดไฟไหม้เครื่องยนต์ข้างนึง ลุค ได้เสนอความคิดในการดับไฟแทนการใช้เครื่องดับไฟอัตโนมัติที่เสียหายด้วยการ ดำดิ่งลง ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ Belle บินกลับฐานด้วยความกระปรกกระเปลี้ย แถมก่อนที่จะลงจอด Landing Gear หรือชุดฐานล้อก็ไม่ยอมทำงานอีกข้างหนึ่ง ต้องใช้ระบบมือหมุนมาช่วยกางฐานล้อเพื่อลงจอดได้ในนาทีสุดท้าย