Thursday, July 22, 2010

Stealth : สเตลท์ ฝูงบินมหากาฬถล่มโลก


ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Stealth
ชื่อไทย : สเตลท์ ฝูงบินมหากาฬถล่มโลก
ความ ยาว/Length :  121 นาที/minute



รายละเอียดเรื่องย่อ/Synopsis
เรื่อง ราวชีวิตของนักบินแห่งกองทัพอากาศอเมริกัน เบน แกนน่อน (จอช ลูคัส), คาร่า เวด (เจสสิก้า บีล) และ เฮนรี่ เพอร์เซลล์ (เจมี่ ฟ็อกซ์) ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยลับที่รวบรวมเอานักบินหัวกะทิเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับปฏิบัติการทดสอบเครื่องบินลักลอบโจมตีที่เรียกกันว่า Talons พวกเขาคือที่สุดแห่งที่สุด และทั้งหมดก็รู้อยู่แก่ใจ!

แต่แล้ว ร้อยเอก จอร์ช คัมมิ่ง (แซม เชฟพาร์ด) ผู้บังคับบัญชากลับแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเครื่องบินลำใหม่ที่ควบคุมด้วย ปัญญาประดิษฐ์ UCAV (Unmanned Combat Aerial Vehicle) พาหนะต่อสู้บนอากาศที่ขับเคลื่อนโดยไร้คนบังคับ หรือชื่อย่อคือ EDI

แม้ ว่า เบน จะยังลังเลกับการลบเอามนุษย์ออกจากสมการของสงครามในครั้งนี้ แต่ คัมมิ่ง ก็สั่งลูกทีมให้ลงมือปฏิบัติภารกิจจริงครั้งแรกของพวกเขาร่วมกับ EDI ทั้งสามต้องถึงกับอึ้งเมื่อ EDI ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักบินชั้นยอดและเป้าหมายแรกถูกกำจัดได้สำเร็จ

ขณะ ที่ทั้งหมดกำลังเดินทางกลับสู่ฐานทัพ ยังเรือบรรทุกเครื่องบิน คาร์ล วินสัน เครื่อง EDI ก็ถูกฟ้าผ่า สมองของเจ้าคอมพิวเตอร์จึงได้รับการกระทบกระเทือนและเปลี่ยนแปลงไปในแบบที่ ผู้สร้างมันก็คาดการณ์ไม่ถึง กระนั้น คัมมิ่ง ก็ยังคงประกาศว่าเจ้า EDI พร้อมแล้วสำหรับปฏิบัติการรบกลางอากาศ แม้ว่า เบน และ เฮนรี่ จะมีทีท่าไม่เห็นด้วยก็ตาม

ภารกิจครั้งถัดมาของพวกเขาคือการปะทะกับ กองกำลังอิสระในมณฑลอันห่างไกลของจีน ปัญหาที่เกิดกับวงจรไฟฟ้าของ EDI มีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ เบน จึงตัดสินใจว่าความเสี่ยงของการโจมตีในครั้งนี้นั้นมีมากเกินกำลังของตัวเขา เฮนรี่ และ คาร่า ที่ความรักระหว่างเขาและเธอกำลังผลิบาน เบน จึงตัดสินใจยกเลิกปฏิบัติการ แต่ EDI กลับฝ่าฝืนคำสั่งและมุ่งหน้าโจมตีต่อ

มหันต ภัยระอุขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ EDI ตัดสินใจดำเนินภารกิจลับสุดยอด ที่หากมันทำสำเร็จแล้วโลกก็จะต้องถึงคราววินาศด้วยสงครามนิวเคลียร์ วันล้างโลกนี้มีเพียง เบน เท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งได้!

Wednesday, July 14, 2010

Braveheart (วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ)



ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Braveheart
ชื่อไทย : วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ
ความ ยาว/Length :  177 นาที/minute

เมล กิ๊บสัน นำแสดง และกำกับภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ ที่ระลึกถึงวันวีรบุรุษชาวสก็อต กับการต่อสู้รบอย่างเหี้ยมหาญ เพื่อเอกราชของสก็อตแลนด์ ในศตวรรษที่ 13 เมื่อภรรยาของ วิลเลี่ยม วอลเล (กิ๊บสัน) ถูกทำร้ายและฆ่าโดยเหล่าทหารอังกฤษ การแก้แค้นเพื่อเธอได้สานต่อไปสู่การต่อสู้ เรียกร้องอิสรภาพเพื่อประเทศชาติของเขา เรื่องราวความกล้าหาญของวอลเลซ ดลใจให้สามัญชนชาวสก็อตทุกคน จับอาวุธขึ้นต่อต้านอังกฤษ จนบังเกิดสงครามที่ลือเลี่ยงอีกครั้งในประวัติศาสตร์ BRAVEHEART เสนอภาพแห่งความกล้าอย่างทรงพลัง ด้วยการแสดงชั้นเยี่ยม



เรื่องย่อ

วิลเลี่ยมส์ วอลเลซ (เมล กิ๊บสัน) เป็นผู้ก่อกบฏชาวสก๊อตแลนด์ เขาเป็นผู้นำในการปฎิวัติเพื่อต่อต้านผู้ปกครองของอังกฤษผู้โหดร้ายที่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด เดอะ ลองแชงค์ (แพตทริก แม็กกูฮาน) ซึ่งปรารถนาที่จะสวมมงกุฏกษัตริย์แห่งสก๊อตแลนด์ เมื่อวิลเลี่ยมส์ยังเป็นเด็ก คุณพ่อของเขา พี่น้องของเขา รวมทั้งคนอื่นๆ อีกมากมาย ต้องสละชีวิตตนเองในการปลดปล่อยดินแดนแห่งสก๊อตแลนด์ให้เป็นอิสระ ดังนั้นเขาจึงมุ่งมั่นเพื่ออิสรภาพแห่งแผ่นดินบ้านเกิดของเขา แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรก็ตาม และเขาก็ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง วิลเลี่ยมส์ยังได้รับการสนับสนุนจาก โรเบิร์ต เดอะ บรู๊ซ (แองกัส แม็กฟาไดเอน) อีกด้วย

เรื่องนี้มีจุดเด่นหลายๆอย่าง ที่สะกดคนดูได้ทั้งเนื้อเรื่องที่ชวนให้ติดตามไม่แพ้ละครน้ำเน่าทางช่อง 7 เพลงประกอบอันไพเราะ ยิ่งถ้าคนหนังแนวฮีโรหล่ะก็ นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรพลาดจริงๆ เพราะเป็นเรื่องเกียวกับ William Wallace วีรบุรุษชาวสกอตฯ แต่เรื่องนี้อย่าหวังว่าจะได้ความสมจริงแบบ Schindler s List เพราะเรื่องนี้ท่าจะโดนใส่ใข่ไปเยอะทีเดียว เพื่อความสนุกของหนัง ตัวร้ายต้องร้ายที่สุด พระเอกก็พระเอกจ๋ากันเลยทีเดียว

ความเข้มข้น เริ่มจาก Murron หญิงสาวชาวสกอตแลนด์ซึ่งเป็นภรรยาที่แต่งงานลับๆ*กับ William Wallace ถูกสังหารโดยทหารอังกฤษ ตอนนั้นสกอตแลนด์ตกอยู่ใต้อำนาจของอังกฤษอยู่ด้วย ชาวบ้านจึงร่วมมือเข้าช่วยเหลือ Wallace ในการแก้แค้น ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวของชาวสกอต ในการทำสงครามเพื่อกอบกู้เอกราชของชนชาวสกอต..

สำหรับเรื่องนี้ที่ ชอบเป็นพิเศษอาจจะด้วยว่าเพลงที่เพราะและเนื้อเรื่องโดนใจมากๆ ตัวหนังเองก็ค่อนข้างจะยาวแต่ก็ไม่เยิ่นเย้อจนเกินไป ความยาวของหนังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการผูกปมความรักของตัวเอกตั้งแต่วัยเด็ก จนกระทั่งเกิดเรื่อง ผู้กำกับได้พยายามทำให้เห็นภาพของความโหดร้ายของอังกฤษและความแค้นของชาวสก อตที่มีต่ออังกฤษในยุคนั้นด้วย

ต่อมา เมื่อบทของความรักจบลง จึงต่อด้วยการแก้แค้นซึ่งทำให้ตกกระไดพลอยโจร จากการต่อสู้เพื่อคนรัก กลายมาเป็นการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แต่ผู้กำกับก็ไม่วายหยอดให้ Wallace ยังมีภาพของ Murron อยู่ในหัวพร้อมๆกับการเข้ามาของเจ้าหญิงแห่งฝรั่งเศษพระนามว่า Isabelle ที่เป็นพระชายา ของมกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ สรุปคือภาพใต้สถานการณ์ของการต่อสู้ก็ยังมีเงื่อนไขของความรักเข้ามาเสมอโดย มีปมเป็นสิ่งของแทนตัวของ Murron ที่ Wallace เก็บไว้เสมอมา(จนตอนจบ)

จุด เด่นสุดๆของเรื่องนี้ก็คือ เพลงประกอบที่เข้ากับเนื้อเรื่องขณะนั้นมากๆ หลายๆตอนทำเอาน้ำตาซึมทีเดียว ยิ่งตอนจบนี่บ่อน้ำตาแทบแตก เนื้อเรื่องว่าบีบหัวใจแล้วเจอดนตรีเข้ามาบิวด์ซ้ำอีก.. แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะยังไง เรื่องนี้ก็ได้สองราววัลใหญ่ของออสการ์ไป คือ ภาพยนต์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม สำหรับคนที่ชอบแนวรักแบบ Extreme ผสมกับแนวฮีโรปลุกใจนักสู้ เรื่องนี้ได้ใจมากๆๆ บทรักมีทั้งโรแมนติก สุขสุมและเศร้าเคล้าน้ำตา บทฮีโรก็ทำให้ประทับใจในความเป็นนักสู้มากทีเดียว..

Friday, July 9, 2010

Saving Private Ryan (เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ผ่าสมรภูมินรก)



ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Saving Private Ryan
ชื่อไทย : เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ผ่าสมรภูมินรก
ความ ยาว/Length :  170 นาที/minute

"เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ผ่าสมรภูมินรก" จากฝีมือกำกับของ สปีลเบิร์ก ได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และ.ผู้ ชมทั่วโลกว่า เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ น่าจดจำไปตลอดกาล ทั้งได้รับการยกย่องให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่ควรคู่กับรางวัลต่าง ๆเมากมายมาครอง อาทิ 5 รางวัล ออสการ์ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม สาขาตัดต่อภาพยนตร์และ.เทคนิคตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม ตอกย้ำศักดิ์ศรีกับการคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และ.เข้า ชิงรางวัลมากกว่า 10 สาขาจากเวทีรางวัลนานาชาติอีกมากมาย นอกจากนั้นยังส่งให้ สปีลเบิร์ก ได้รับรางวัลจากสมาคมผู้กำกับยอดเยี่ยมแห่งอเมริกาเป็นครั้งที่สามอีกด้วย



"เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ผ่าสมรภูมินรก" เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 1998 เป็นเรื่องราวของทหารหน่วยปฏิบัติการในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อครั้งบุกโจมตีในวันดีเดย์ ทหารหนุ่มได้รับคำสั่งมุ่งหน้าไปปฏิบัติภารกิจพิเศษที่เสี่ยงอันตราย นำทีมโดยกัปตัน จอห์น มิลเลอร์.(ทอม แฮงส์).พาพลทหารในกองทัพของเขาออกตามหาเจมส์ ไรอัน ผู้ที่พี่และน้องชายสามคนเสียชีวิตในสมรภูมิรบ พวกเขาเผชิญกับเรื่องประหลาดและความ กังขาต่อคำสั่งในภารกิจนี้ ว่าทำไมชายแปดคนจึงต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว ทั้งที่พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดจากสงครามอันโหดร้าย ต่างคนต่างค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง ว่าเป็นการสู้รบครั้งนี้เพื่อชัยชนะ เกียรติยศ อำนาจและ.ความกล้าหาญของพวกเขา?

Monday, July 5, 2010

Enemy at the Gates (กระสุนสังหารพลิกโลก)



ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Enemy at the Gates
ชื่อไทย
: กระสุนสังหารพลิกโลก
ความ ยาว/Length :  131 นาที/minute



ขณะที่กองทัพเยอรมันและรัสเซียต่างส่งกองทหารสู้อภิมหาศึกสงครามของโลก และคนทั้งโลกกำลังรอคอยผลของการต่อสู้ด้วยความกลัว เป็นสงครามที่สตาลินกราด ทหารปืนลอบสังหารผู้มีชื่อเสียงจากรัสเซีย วาซิลี เซทเซฟ (จูด ลอว์) ค่อยๆ สะกดรอยศัตรูของเขาทีละคนๆในไม่ช้า ชื่อเสียงของเขาก็ผลักดันให้เขาเข้าสู่การต่อสู้ส่วนตัวครั้งสำคัญกับนัก แม่นปืนที่เก่งที่สุดของเยอรมัน คือ พันตรี โคนิจ (เอ็ด ฮาร์ริส) และทั้งสองก็พบว่าตนเองกำลังต่อสู้อยู่ในสงครามส่วนตัว ขณะที่มีสงครามครั้งสำคัญที่สุดแห่งประวัติศาสตร์อยู่รายรอบทั้งสอง วาสซิลีเป็นคนสุภาพและควบคุมสติได้ดี เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ความสามารถที่ไม่ธรรมดาเท่า นั้น ส่วนดานิลอฟ (โจเซฟ ไฟนส์) ผู้เป็นเจ้าหน้าที่การเมืองโซเวียต รู้ดีว่าวาซิลีมีคุณค่ามากเพียงใด เขาจึงสนับสนุนให้นายทหารธรรมดาอย่างวาซิลีที่มาจากอูราลส์ให้กลายเป็น วีรบุรุษที่ชาติต้องการอย่างยิ่ง

หลังจากที่เยอรมันชนะไปหลายหนและสหภาพโซเวียตกำลังจะล่มสลาย การที่โซเวียตสูญเสียสตาลินกราดให้กับเยอรมัน ทำให้ดูเหมือนว่าน่าจะมั่นใจได้ว่าเยอรมันกำลังจะเป็นผู้ชนะสงครามในยุโรป สตาลินจึงได้ส่งครู้ซเชฟ (บ็อบ ฮอสกิ้นส์) มาเพื่อดูแลการคุ้มกันเมือง
แต่แล้วในไม่ช้าดานิลอฟก็ริษยานายทหารวาสซิลีที่เขาสร้างขึ้นเอง เนื่องจากระหว่างสงคราม ทั้งสองต่างก็ตกหลุมรัก ทาเนีย (ราเชล ไวซ์) เธอเป็นหนึ่งในทหารหญิงของกองทัพที่ร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับชายชาตรี ฝ่ายเยอรมันส่งทหารปืนลอบสังหารมือดีที่สุด ซึ่งก็คือพันตรี โคนิจ มาเพื่อสะกดรอยและฆ่าวาซิลีผู้มีชื่อเสียงทั้งในเยอรมันและรัสเซีย ด้วยความอดทนและทักษะที่เยี่ยมยอด ทั้งสองแอบต่อสู้กันโดยลำพัง ขณะที่ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังเสียชีวิตอย่างเกลื่อนกราดทั่วสตาลินกราด
ภาพยนตร์ที่เป็นเกียรติประวัติอย่าง Enemy at the Gates มาจากเรื่องจริงของวีรบุรุษ วาซิลี เซทเซฟ ซึ่งจบการศึกษาที่สตาลินกราด และเป็นเรื่องราวความกล้าหาญของคนเราที่ปรากฏออกมาในสงคราม ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างและกำกับโดย ฌอง ฌ้าค อันนอ มี อัลเลน ก็อดดาร์ด และฌอง ฌ้าค อันนอเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ ซึ่งอำนวยการสร้างโดยจอห์น ดี. สโกฟิลด์ และอำนวยการสร้างบริหารโดยอัลเลน ก็อดดาร์ด, อลิซา แท็กเกอร์

Thursday, July 1, 2010

Pearl Harbor (เพิร์ล ฮาร์เบอร์)


ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ : Pearl Harbor
ชื่อไทย : เพิร์ล ฮาร์เบอร์
ความ ยาว/Length :  183 นาที/minute

เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ภาพยนตร์เอพิคฮิตถล่มทลาย ที่มาพร้อมเทคนิคภาพอันยิ่งใหญ่และ.ตื่นตาเรื่องนี้ คือเอีกหนึ่งผลงาน ที่จะตรึงหัวใจคุณ จากฝีมือของผู้อำนวยการสร้าง เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ และ.ผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ ทีม ในภาพยนตร์ที่รวมดาราชั้นนำไว้อย่างคับคั่งเมื่อผู้บริสุทธิ์มากมายและ ความสงบสุขของประเทศถูกทำลายอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยพลังร้ายแห่งสงคราม หลากหลายชีวิตของคนรุ่นหนึ่งกำลังเผชิญกับความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ของมวล มนุษยชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม "สงครามโลกครั้งที่ 2" เหตุการณ์บุกโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ได้กลายเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งครั้งสำคัญที่สุด ในจิตใจของผู้ร่วมเหตุการณ์และ.ผู้คนทั่วโลก  นี่คือเเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของความรักความสูญเสีย และวีรกรรมกล้า ในเหตุการณ์แห่งความทรงจำที่คุณต้องระลึกถึง



สองนักบินหนุ่มคนกล้า ราฟ แม็คคอว์ลีย์ (เบน แอฟเฟล็ค) และ แดนนี่ วอล์คเกอร์ (จอช ฮาร์ทเน็ทท์) ซึ่งเติบโตสนิทสนมกันราวกับเป็นพี่น้อง พวกเขาได้รับการฝึกฝน ให้ขับเครื่องบินกำจัดแมลงศัตรูพืช และในยามที่ชาติต้องการ พวกเขาก็พร้อมเข้าร่วมเป็นนักบิน ประจำกองทัพอากาศสหรัฐฯ ราฟหลงรัก เอเวลีน จอห์นสัน (เคท เบ็คคินเซล) นางพยาบาลสาวสวยจิตใจห้าวหาญ ที่ทำงานในกองทัพเรือสหรัฐฯ ทันทีที่ราฟได้รู้จักกับเอเวลีน เขาก็ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง แต่ข้างฝ่ายเอเวลีน กลับไม่แน่ใจว่าเขารักเธอจริง

ด้วยความหาญกล้าเปี่ยมอุดมการณ์ ราฟได้เข้าร่วมกองร้อยอินทรี กลุ่มนักบินอาสาสมัครชาวอเมริกัน  ,   แคนาดา  ,   ออสเตรเลีย  ,   สวีเดน และอีกหลายประเทศชาติเป็นกลาง ที่สมัครใจเข้าร่วมรบกับนักบินอังกฤษ ในสมรภูมิรบอังกฤษ (Battle of Britain) ทิ้งคนรักใหม่กับเพื่อนสนิทของเขาไว้เบื้องหลัง โดยเขาได้ให้สัญญาว่าจะกลับมา เอเวลีนเองรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก กับการตัดสินใจของราฟ ที่จะพาตัวเองเข้าสู่อันตราย จากนั้นราฟก็เหินเวหาสู่ช่องแคบอังกฤษ ขณะที่ทั้งเอเวลีนและแดนนี่ โยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในดินแดนฮาวาย - เพิร์ล ฮาร์เบอร์

ก่อนหน้าวันที่ 7 ธันวาคม 1941 เพิร์ล ฮาร์เบอร์ เป็นดั่งแดนสวรรค์อันสวยงาม แม้ว่าแดนนี่กับเอเวลีนจะไม่ได้สร้างสัมพันธ์ระหว่างกันให้งอกเงยเป็นความ รัก แต่เขาทั้งสองก็มีเพื่อนสนิทที่อยู่ที่นั่นด้วย อาทิ เพื่อนของราฟและแดนนี่ที่ชื่อ เรด (อีเวน เบรมเนอร์) กับพยาบาลสาวคนรักของเขาที่ชื่อ เบ็ตตี้ (เจมส์ คิง)  ,   บิลลี่ (วิลเลี่ยม ลี สก๊อตต์) นักบินฝึกหัดจากนิวยอร์ค รวมถึงบรรดานางพยาบาลซึ่งย้ายมาทำงานด้วยกัน - บาร์บาร่า (แคทเธอรีน เคลล์เนอร์) และ แซนดร้า (เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์) และที่นั่นพวกเขาได้รู้จักกับ เอิร์ล (ทอม ไซส์มัวร์) ช่างเทคนิคเครื่องบินมากความสามารถ และ กูซ (ไมเคิล แชนนอน) นักบินหนุ่มเลือดร้อน หน้าใหม่ของกองร้อยการบิน

กองบัญชาการย่อย เวสท์เวอร์จิเนีย (West Virginia) ซึ่งตั้งอยู่ที่ฟอร์ด ไอส์แลนด์ ควบคุมดูแลโดย ดอริส มิลเลอร์ (คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนี่ยร์) มิลเลอร์ได้รับเหรียญกล้าหาญ จากการยิงเครื่องบินญี่ปุ่นตกสองลำ และช่วยชีวิตกัปตันเอาไว้ได้ เขาเป็นคนอัฟริกัน-อเมริกันคนแรก ที่ได้เกียรติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายหลังจากที่ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่นั้นไม่นาน มิลเลอร์ก็พลีชีพให้กับการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2... เมื่อเรือรบที่เขาร่วมอยู่ด้วยถูกถล่มจมลงกลางทะเล

หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น มิลเลอร์ก็ยังไม่ได้รับการใส่ใจยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ เนื่องจากอาวุธปืนที่เขาใช้ (ซึ่งต้องการน้ำหล่อเลี้ยงระหว่างการใช้งาน) ร้อนจนไหม้เสียหาย นายทหารที่ทำให้อาวุธหนักได้รับความเสียหาย จะต้องถูกทำโทษ มิลเลอร์เองก็ตระหนักดีถึงกฎข้อบังคับดังกล่าว

แดนนี่  ,   เอเวลีน  ,   ดอริส และบรรดาผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ต่างก็ใช้ชีวิตกันไปอย่างสงบเงียบ ไม่เคยมีใครคาดคิดกันมาก่อน ว่าการจู่โจมแบบสายฟ้าฟาด จะเกิดขึ้นกับพวกเขาแบบทันไม่รู้เนื้อรู้ตัว การจู่โจมครั้งสำคัญที่เกิดขึ้น ณ เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ทั้งทางน้ำและทางอากาศ ของกองทัพจักรพรรดิญี่ปุ่น เป็นการกระทำที่สั่นคลอนเสถียรภาพของโลก และกลายมาเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ไม่มีใครลืมได้ลง

ก่อนหน้านั้น.. วันที่ 26 พฤศจิกายน 1941 เรือดำน้ำ 20 ลำ  ,   เรือดำน้ำขนาดเล็กอีก 5 ลำ พร้อมด้วยเรือรบขนาดใหญ่ 2 ลำ  ,   เรือลาดตระเวน 3 ลำ  ,   เรือพิฆาต 11 ลำ  ,   เรือขนลำเลียง 6 ลำ  ,   เรือบรรทุกน้ำมันอีก 8 ลำ  ,   เครื่องบินรบกว่า 423 เครื่อง... ทั้งหมดเครื่องขบวนออกจากอ่าวทันกัน (Tankan Bay) ประเทศญี่ปุ่น มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนว่า พวกเขาได้รับมอบหมายภารกิจ ให้ไปโจมตีสหรัฐฯ ณ เกาะฮาวาย ระหว่างการเคลื่อนทัพ นายพลเรืออิโซโรกุ ยามาโมโต้ (มาโกะ) ก็ส่งรหัสสัญญาณไปยัง นายพล ชูอิชิ นากูโม่ ว่า  นิอิตาคะ ยามา โนบูเระ - ปีนภูเขานิคิตะ  ซึ่งหมายความถึง ให้เริ่มดำเนินภารกิจได้แล้ว ในวันที่ 2 ธันวาคม นายพลนากูโม่ได้รับคำสั่งให้เปิดซองลับ เกี่ยวกับภารกิจครั้งสำคัญ ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า... นั่นคือการประกาศสงครามกับสหรัฐฯ  ,   อังกฤษ และฮอลล์แลนด์

เวลาเช้า 6:45 ของวันที่ 7 ธันวาคม 1941 (วันที่ 8 ธันวาคม - ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น) เครื่องบินรบฝูงแรกก็ทะยานขึ้น จากดาดฟ้าเรือรบญี่ปุ่นอะคาจิ ภายใต้การควบคุมของ นาวาโท มิทซูโอะ ฟูชิดะ ลูกระเบิดกว่า 183 ลูก ถูกทิ้งลงจากเครื่องบิน สู่หาดโออาฮุ ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

เครื่องบินรบฝูงแรกแยกเป็นสามกลุ่มย่อย นาวาโทฟูชิดะพร้อมด้วยเครื่องบินรบรุ่นเคท (หนึ่งในสามรุ่นของเครื่องบินรบญี่ปุ่นที่ใช้ในสงคราม) จำนวน 89 ลำ มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ เป้าหมายคือ ฟอร์ด ไอส์แลนด์ ขบวนรบที่สองและสาม แยกออกจากกันไปตามแนว ไวอะลัว วัลลีย์ (Waialua Valley)  ,   ชูฟิลด์ บาร์แร็คส์ (Schofield Barracks)  ,   วีลเลอร์ ฟิลด์ (Wheeler Field)  ,   ฮิคแฮม ฟิลด์ (Hickam Field)  ,   เบลโลว์ส ฟิลด์ (Bellows Field) และ คาเนโอ เบย์ (Kaneohe Bay)

เครื่องบินรบฝูงที่สองจำนวน 168 ลำ มุ่งหน้าสู่หาดโออาฮุ ในเวลาประมาณ 8:40 น. เป้าหมายคือฐานที่มั่นกองทัพสหรัฐฯ เครื่องบินรบญี่ปุ่นรุ่นซีโร่  ,   เคท และวัล มากกว่า 350 ลำ บินอยู่เหนือน่านฟ้ามืดฟ้ามัวดิน พร้อมทั้งทิ้งระเบิด รัวปืนเข้าใส่ประดุจห่าฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีในครั้งนั้น

เรื่องราววีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของผู้คน ได้ก่อกำเนิดขึ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ความเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์วันที่ 7 ธันวาคม 1941 ไม่ได้สิ้นสุดลงที่ความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ของกองกำลังทหารสหรัฐฯ แต่กลับเป็นจุดเริ่มของการตอบโต้ จากประเทศมหาอำนาจสหรัฐฯ ณ เพิร์ล ฮาร์เบอร์ และทั่วพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งส่งผลให้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ตามมา - นั่นคือการทิ้งระเบิดเข้าใส่กรุงโตเกียว นำทีมโดย นาวาเอก จิมมี่ เอช. ดูลิทเทิ้ล (อเล็ค บาลด์วิน)

ภารกิจจู่โจมของดูลิทเทิ้ล เกิดขึ้นจากการประชุมหารือกัน ของเหล่ากัปตันเรือดำน้ำ ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนให้กับข้าศึก หลังจากที่ นายพลเฮนรี่ อาร์โนลด์ เห็นชอบกับข้อเสนอแนะ เขาเลือก นาวาเอก จิมมี่ ดูลิทเทิ้ล เป็นผู้บัญชาการในภารกิจครั้งนี้ ซึ่งเขาก็เลือกให้ราฟและแดนนี่เป็นหนึ่งในทีมหัวหน้านักบิน ที่ไปร่วมในภารกิจสำคัญครั้งนี้ด้วย

ในวันที่ 18 เมษายน 1942 นาวาเอก ดูลิทเทิ้ล กับลูกทีมของเขา ขับเครื่องบินทะยานขึ้นจากดาดฟ้าเรือรบ USS Hornet ซึ่งจอดอยู่ห่างจากชายฝั่งญี่ปุ่น 670 ไมล์ เรือประมงญี่ปุ่น ที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเรือฮอร์เน็ทอยู่ห่างๆ ได้เห็นเครื่องบินรบบี 16 จำนวน 25 ลำ พุ่งทะยานขึ้นจากเรือ พร้อมด้วยเสียงโห่ร้องให้กำลังใจจากบรรดาลูกเรือลำนั้น

จากภารกิจครั้งนั้น นาวาเอกดูลิทเทิ้ลได้รับการเลื่อนขั้น ให้เป็นนายพลจัตวา โดย ประธานาธิบดีรูสเวลท์ (จอน วอยท์) เป็นคนประดับเหรียญกล้าหาญให้ด้วยตัวเอง เขายังคงได้รับการกล่าวขวัญถึงจากคนรุ่นหลัง มาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงในปี 1993 ขณะอายุ 96 ปี ในฐานะผู้ปฏิบัติภารกิจสำคัญที่ไม่น่าเป็นไปได้ ให้สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี